ไก่พื้นเมืองเป็นทรัพยากรของชาติที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ มีการเลี้ยงอย่างแพร่หลายทั่วไปแทบทุกครัวเรือนเกษตรกร และนับเป็นการสะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวชนบทไทย
การเลี้ยงไก่พื้นเมืองส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงเป็นอาชีพเสริม โดยในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทยจะมีการเลี้ยง ไก่ประจำถิ่น ทั้งนี้ไก่ประจำถิ่นหลายแห่งอาจมีประวัติที่มาในอดีตหลายร้อยปี จนสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนในพื้นที่
ในปัจจุบันไก่พื้นเมืองดั้งเดิมในหลายท้องถิ่นลดน้อยลง บางแห่งสูญหายไป หรืออาจถูกนำไปผสมพันธุ์กับไก่จากท้องถิ่นอื่นจนทำให้ไก่พื้นเมืองประจำถิ่นนั้นกลายพันธุ์ไปก็มี ด้วยเหตุของความหวงแหนจึงทำให้ชาวบ้านและภาคราชการหันมาให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์พันธุ์ไก่พื้นเมืองเพิ่มมากขึ้น
นายกิตติพงษ์ บุญบุตร หรือคุณแจ๊ค อยู่บ้านเลขที่ 131 หมู่ 7 ตำบลบ้านดารา อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องการอนุรักษ์พันธุ์ไก่พื้นเมืองประจำถิ่นของจังหวัดอุตรดิตถ์นั่นคือ “ไก่เขียวพาลี”
นายกิตติพงษ์ บุญบุตร หรือคุณแจ๊ค
เดิมคุณแจ๊คมีมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านหัวบึง ตำบลท่ามะเฟือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ เลี้ยงไก่ชนพื้นเมืองทั่วไป จะเพาะพันธุ์แล้วขายเป็นไก่ชน พอหลังจากแต่งงานเลยย้ายมาอยู่กับภรรยาที่ตำบลบ้านดาราแห่งนี้ตั้งแต่ปี 2553
เขาเล่าว่ามาสะดุดตาไก่เขียวพาลีเมื่อคราวไปเจอที่งานประกวดไก่ มองเห็นว่าสวย มีเสน่ห์ จุดเด่นที่ทำให้สนใจมากคือสีขนแล้วได้สอบถามว่าเป็นไก่มาจากไหน มีคนบอกว่าเป็นไก่อุตรดิตถ์ แต่สงสัยเพราะไม่เคยพบเจอเลย จากนั้นจึงไปซื้อลูกไก่มาเลี้ยง และขยายพันธุ์ พร้อมกับพยายามคัดเพื่อให้ได้ลักษณะตรงกับสายพันธุ์เดิมในอดีต
คุณแจ๊คเผยว่าจากที่เริ่มต้นนำไก่เขียวพาลีมาเลี้ยงจนเติบโตพบว่ามีคุณลักษณะตรงตามสายพันธุ์เดิมเพียง 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ที่พบเห็นเขียวพาลีจากแห่งอื่นว่ามีลักษณะตรงตามพันธุ์นั้น ความจริงแล้วบางตัวผ่านการตกแต่งทางศัลยกรรมเพื่อให้อวัยวะทุกอย่างเหมือนและตรงกับสายพันธุ์แท้เพราะต้องส่งเข้าประกวด
ด้วยความที่ยังไม่พอใจกับความสมบูรณ์ของสายพันธุ์เขียวพาลี จึงทำให้คุณแจ๊คตัดสินใจอีกครั้งด้วยการซื้อไก่เขียวพาลีที่เป็นพ่อ-แม่พันธุ์ โดยพ่อพันธุ์ซื้อมาจากอยุธยา ราคาตัวละ 1.5 หมื่นบาท กับแม่พันธุ์มาจากบางปะกงจำนวน 2 ตัว ราคาตัวละ 5 พันบาท เขาให้เหตุผลถึงการซื้อพ่อ-แม่ พันธุ์ต่างแหล่งกันเพราะป้องกันเลือดชิด ซึ่งอาจส่งผลต่อการหาสายพันธุ์แท้ในอนาคต
เขียวพาลีพ่อพันธุ์หนุ่มอายุ 2 ปี
หลังจากได้ลูกไก่ชุดแรกออกมาปรากฏว่าสียังไม่ตรงเพราะที่คอยังแซมดู่มากไป ส่วนอีกตัวมีลักษณะค่อนข้างดีเพราะมีไหล่ยก อกตั้ง เพียงแต่หางยังกระดกไปเล็กน้อย ทั้งนี้จะต้องมาพิจารณาดูลักษณะทั้งตัวผู้-เมีย ถึงลักษณะเด่นแล้วพยายามคัดพันธุ์ให้เหมือนที่สุด
คุณแจ๊คเลี้ยงไก่เขียวพาลีมาตั้งแต่ปี 2553แล้วค่อยพัฒนาและคัดสายพันธุ์มาตลอดเวลา กระทั่งมาได้เป็นพันธุ์สมบูรณ์ที่สุดเมื่อปี 2556 เขาชี้ว่าแต่ละรุ่นถ้าเพาะมาแล้วไม่ตรงก็จะเสียทั้งหมด แต่จะแก้ปัญหาด้วยการใช้วิธีคัดดูว่าตัวใดไม่ตรงตามลักษณะที่ต้องการมากจึงจับแยกออกมา ทั้งนี้พบว่าคุณลักษณะเด่นของไก่เขียวพาลีที่ทำให้มีความสง่างามคือไหล่ยก อกตั้งนั้นมักเห็นชัดกับตัวผู้ ส่วนตัวเมียนั้นลักษณะดังกล่าวจะด้อยลงมา
เจ้าของฟาร์มไก่รายนี้บอกว่าการเพาะพันธุ์ ในแต่ละครั้งแม่พันธุ์จะให้ไข่ได้ประมาณ 10 ฟอง ในจำนวนนี้จะเป็นตัวผู้จำนวน 4 ตัว จะใช้เวลาฟักประมาณ 20 วัน หลังจากเป็นลูกไก่จะเลี้ยงไปราว 3 เดือนจึงขาย
ทั้งนี้ภายในหนึ่งปีจะเพาะลูกไก่ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับสุขภาพความสมบูรณ์ของแม่พันธุ์ แต่โดยเฉลี่ยประมาณ 3-4 รุ่น ทั้งนี้มีแม่พันธุ์อยู่จำนวนหลายตัว จึงสามารถให้ผลผลิตลูกไก่จำนวนมาก ส่วนพ่อพันธุ์มีความสามารถในการผสมพันธุ์ได้นานประมาณ 5 ปี
ส่วนการดูแลลูกไก่คงไม่ได้แยกเลี้ยงเพราะต้องลงทุนค่าอาหารเพิ่ม แต่จะให้แม่ไก่หาเลี้ยงลูกเอง ซึ่งเป็นแนวการเลี้ยงแบบธรรมชาติที่มีข้อดีตรงที่ทำให้ลูกไก่มีความแข็งแรง มีสุขภาพดี ทนต่อโรคได้ดี
พ่อพันธุ์อีกตัวอายุ 1.5 ปี
ลูกไก่ที่ได้ต่อปีมีจำนวนประมาณ 100 ตัว แต่ไม่ขายทั้งหมด โดยแบ่งตัวเมียขายเป็นไก่เนื้อ แล้วแยกแม่พันธุ์ไว้ต่างหาก ส่วนตัวผู้จะมีการคัดแยกอีกครั้งว่ามีลักษณะรูปร่างอย่างไร โดยใช้เวลาประมาณ 5 เดือนสามารถคัดแยกได้
คุณแจ๊คเล่าว่าสมัยแรกเริ่มเลี้ยงไก่เขียวพาลีจะนำไข่เข้าตู้ฟัก เพราะจะได้จำนวนลูกไก่ตามที่ต้องการแน่นอน แต่ปรากฏว่าลูกไก่ที่ได้จากการฟักด้วยตู้ไม่มีคุณภาพดีพอ ถึงแม้จะได้จำนวนแน่นอนแต่ขาดคุณภาพ ดังนั้นภายหลังจึงเปลี่ยนมาใช้วิธีเลี้ยงไก่แบบปล่อยเป็นไปตามธรรมชาติ ทั้งการให้อาหาร และการฟักไข่ แล้วปล่อยให้แม่ไก่ฟักเองตามธรรมชาติ ซึ่งลูกที่ออกมามีความแข็งแรง และสุขภาพดีมาก
ไก่เขียวพาลีที่เลี้ยงไว้ในฟาร์มจะใช้สำหรับเป็นพ่อพันธุ์และใช้ประกวด ทั้งนี้มีพ่อพันธุ์เป็นไก่หนุ่มจำนวน 2 ตัว มีแม่พันธุ์จำนวน 10 ตัว พ่อพันธุ์อายุ 2 ปี และ 1.5 ปี ซึ่งทั้งสองตัวนี้มีลักษณะเด่นทางธรรมชาติเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าหากลักษณะไม่เด่น หรือไม่ตรงก็จะไม่เก็บไว้เป็นพ่อพันธุ์ แล้วมักจะขายให้กับลูกค้าที่ซื้อไปเพื่อนำไปทำศัลยกรรมตกแต่งอวัยวะให้ดูเป็นไก่พันธุ์แท้
คุณแจ๊คเผยว่าการผสมพันธุ์ไก่เขียวพาลีให้ออกมามีลักษณะตรงตามพันธุ์ดั้งเดิมเป็นเรื่องยาก เพราะมักจะมีแซมดู่เล็กน้อย ทั้งนี้กว่าจะได้พันธุ์แท้ใช้เวลานานมาก ซึ่งปัญหาเช่นนี้เท่าที่ตรวจสอบฟาร์มไก่ที่อื่นก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องใช้ความพยายามและอดทน
ด้านการเลี้ยงไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใด เลี้ยงได้แบบไก่บ้านทั่วไป ส่วนโรคที่เกิดกับไก่มักไม่พบเพราะมีการเอาใจใส่ดูแลความสะอาดโรงเรือนอย่างดี อีกทั้งยังมีการฉีดวัคซีนครบทุกชนิดในเวลาที่กำหนดให้กับไก่ทุกตัว
อาหารที่เลี้ยงคือข้าวเปลือก ให้วันละ 2 ครั้ง เช้า/เย็น ตอนกลางวันจะปล่อยให้ไก่ไปหากินอาหารตามธรรมชาติ ส่วนอาหารเม็ดจะเน้นให้เฉพาะไก่ที่แยกเลี้ยงไว้เพื่อใช้ประกวด แล้วยังใช้หญ้าเขียวซึ่งเป็นหญ้าขนหรือหญ้าแห้วหมูมาให้ไก่กินร่วมกับอาหารเม็ดด้วย ทั้งนี้เพราะคุณสมบัติของหญ้าเขียวจะช่วยทำให้ไก่มีความแข็งแรง และเพิ่มกล้ามเนื้ออย่างดี
คุณแจ๊คกล่าวถึงความภูมิใจของตัวเองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมอนุรักษ์ไก่เขียวพาลี ซึ่งเป็นไก่โปรดของพระยาพิชัยดาบหักแล้วยังมีความภูมิใจกว่านั้นเพราะเป็นคนแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามคัดพันธุ์ไก่เขียวพาลีเพื่อให้ได้พันธุ์แท้ดั้งเดิม หรืออาจจะเรียกได้ว่าตำบลบ้านดาราเป็นแห่งแรกของจังหวัดที่นำไก่เขียวพาลีมาเลี้ยงอย่างจริงจัง จึงตั้งชื่อฟาร์มไก่ของตัวเองว่า ‘ซุ้ม พิชัยไก่สยาม’
(ซ้าย)คุณสุธี ใจหวัง ปศุสัตว์อำเภอ
ไก่ที่เริ่มขายคุณแจ๊คบอกว่าถ้ารู้เพศสามารถขายได้ทันทีประมาณ 3 เดือน แต่เขาชี้ว่าช่วงอายุที่เหมาะสมควรรอให้ไก่โตเป็นหนุ่มไม่ต่ำกว่า 1 ปีจะเห็นรูปร่างลักษณะชัดเจนทุกอย่าง
“ราคาขายถ้าอายุสัก 3 เดือนที่รู้เพศแล้วขายคู่ละ 1,500 บาท ถ้าเลยไปอายุสัก 6 เดือนขายตัวละ 5,000 บาท ยิ่งถ้าอายุขวบปีขึ้นไปขายในราคาตัวละหมื่นกว่าบาท อย่างไรก็ตามระดับราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามลักษณะและรูปร่างของไก่แต่ละตัว”
ป้ายรับรองมาตรฐานจากกรมปศุสัตว์
เจ้าของฟาร์มไก่เผยว่าทุกวันนี้จำนวนไก่ที่เพาะขายไม่เพียงพอ เพราะมียอดสั่งจองเข้ามาตลอด ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าทางแถบจังหวัดพิษณุโลก,สิงห์บุรี ซึ่งจะติดต่อเข้ามาซื้อในฟาร์มเองมักตระเวนหาซื้อไก่ไว้สำหรับใช้ประกวด แล้วยังมีไก่ชนไว้จำหน่ายด้วย นอกจากนั้นคงเป็นลูกค้ารายย่อยที่ส่วนมากเป็นขาจรที่ผ่านมาพบเจอ
“ไก่เขียวพาลีของแท้ในอุตรดิตถ์จะเริ่มจากตำบลบ้านดาราก่อน ส่วนอำเภออื่นทราบว่ามีที่อำเภอลับแล เป็นไก่แท้ แล้วที่อำเภอน้ำปาดก็มีคนมาซื้อจากฟาร์มนี้ไปเลี้ยง รวมถึงนายกอบต.คอรุมก็มาซื้อไก่จากฟาร์มนี้ไปเลี้ยงเช่นกัน”
สำหรับการนำไก่ไปประกวดมีเป็นครั้งคราว ส่วนมากเป็นงานประจำปีของจังหวัด และที่ผ่านมาได้รางวัลชนะเลิศมาหลายแห่ง
ถ้วยรางวัลที่ได้รับจากการประกวด
“อยากให้พี่น้องชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ว่ามาช่วยกันรักษาและอนุรักษ์ไก่เขียวพาลีกันไว้ เพราะทุกท่านควรจะภูมิใจว่าเป็นไก่ประจำถิ่นของจังหวัด แล้วยังมีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ นอกจากนั้นแล้วถ้าจังหวัดอื่นมีไก่ประจำถิ่นอยู่ขอให้ช่วยกันอนุรักษ์ไว้ เพราะมิเช่นนั้นอีกไม่นานสายพันธุ์ไก่ไทยแท้อาจจะสูญพันธุ์ไปจากเมืองไทย”คุณแจ๊คกล่าวทิ้งท้าย
สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่คุณกิตติพงษ์ หรือคุณแจ๊ค โทรศัพท์ 094-8264805
www.technologychaoban.com