เจ้าของไก่ชนนำไก่ชนไปเข้าสังเวียนตีแต่แพ้เขา จนไก่ตาบอดหนึ่งข้าง พอกลับมาถึงบ้านจะฆ่าแกง จนมีผู้ใจบุญมาเจอจึงขอซื้อต่อมาด้วยเบียร์ 6 ขวด นำมาเลี้ยงที่บ้านดูแลอย่างดีจน กินนอนด้วยกันจนเชื่อง ไปไหนก็ไปด้วยกันทุกที่ ขนาดมาทำบุญที่วัดยังตามมาด้วย
วันที่ 13 ต.ค. 61 น.ส.นันธิชา สายเสริมสุข อายุ 35 ปี ชาวบ้าน ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าวันนี้ได้มาทำบุญถวายสังฆทานเนื่องในวันสวรรคตของพ่อหลวง ร.9 ครบ2ปี ที่วัดสว่างอารมณ์ แคแถว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

ได้นำ "เจ้ากุ๊กๆ" ไก่ชนที่เลี้ยงเอาไวมาประมาณ 1 ปีแล้ว ไปไหนก็ไปด้วยกันทุกที่ ไม่ว่าจะไปตลาดซื้อกับข้าวหรือว่าจะไปเที่ยวไหน ไปร้านอาหารที่รู้จักกัน

เรียกได้ว่าไปด้วยกันทุกที่ๆ เขาให้เอาสัตว์เลี้ยงเข้าไปได้ก็จะไปด้วยกันทุกที่ อย่างวันนี้มาทำบุญก็เอามาด้วย ถ้าไม่เอามาก็จะร้องตามตลอด

น.ส.นันธิชา สายเสริมสุข บอกว่า ไก่ชนตัวนี้ เจ้าของเดิมนำไก่ชนตัวนี้ไปเข้าสังเวียนตีกับอีกฝ่ายหนึ่งแต่ตีแพ้เขาจนไก่ตาบอดหนึ่งข้าง แต่พอเจ้าของเดิมกลับมาถึงบ้านจะฆ่าให้ตายแล้วนำไปปรุงเป็นอาหาร

เดินไปเจอโดยบังเอิญจึงขอซื้อต่อมาด้วยเบียร์ 6 ขวด เจ้าของที่นำไก่ไปตีแพ้จึงได้ให้มา จากนั้นนำมาเลี้ยงที่บ้านดูแลเหมือนลูกคนหนึ่ง นอนก็นอนในห้องแอร์ต้องปูผ้าห่มให้นอน

กินก็กินปลาแซลมอนมะเขือเทศ ปูอัด แบรนด์รังนก วิตามิน กลางคืนต้องตื่นลุกขึ้นมาเก็บขี้ประมาณ 4-5 ครั้งต่อคืน ถ้าไม่เก็บเจ้ากุ๊กๆ จะไม่นอนในผ้าห่มที่ปูเอาไว้ให้

พอดึกก็จะขึ้นมานอนอยู่บนอก มานอนข้างตัวบ้างบนเตียงนอนกับคนเลย เวลาไปไหนก็จะไปด้วยกันทุกที่ ถ้าไม่ให้ไปเจ้ากุ๊กจะร้องตาม ถ้าสถานที่ไหนไม่ให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าก็จะไม่ไปเช่นกัน เหมือนว่าด้วยความผูกพันไปแล้ว

จนทุกวันนี้ต้องไปซื้อไก่ชนตัวเมียมาเพิ่มอีกตัวหนึ่งแล้วมาเป็นเพื่อนกัน ส่วนตัวแล้วเลี้ยงเจ้ากุ๊กๆ ดีกว่าเลี้ยงหมาแมวเพราะว่าไม่ต้องเครียดเรื่องต้องนำไปขึ้นทะเบียนตัวละ 450 บาท และจะเลี้ยงเจ้ากุ๊กๆ ไปจนตายจากกันเลยทีเดียว