จับ แก๊งวางยาไก่ชน ปล้น-ฆ่าเจ้าของ รับลงมือพลาด
อาชญากรรม จับ แก๊งวางยาไก่ชน ปล้น-ฆ่าเจ้าของ รับลงมือพลาด
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 7 พ.ค. 2564 พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิตผกก.ดส. สั่งการให้ พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ วชิรโชติกุล สว.กก.ดส. นำกำลังเข้าจับกุม นายสมาน หาวิธี อายุ 53 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.626/2560 ลงวันที่ 25 ธ.ค.60 ข้อหา “ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้จัดทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยใช้ยานพานะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร”
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 23 มี.ค. 2559 นายสมาน ผู้ต้องหารายนี้ได้ร่วมกันกับพวกอีก 3 คน ซึ่งถูกจับกุมไปแล้ว รับงานวางยาไก่ชนในเล้า ที่บ้านเลขที่ 95/2 หมู่ 5 ต.โคกพระเจดีย์ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เพื่อให้ไก่ชนดังกล่าวอ่อนแรง ไม่สามารถตีชนะคู่ต่อสู้ได้
ทว่าระหว่างแอบเข้าไปลงมือ ปรากฏว่า นายไพฑูรย์ กลิ่นพะยอม อายุ 79 ปี เจ้าของบ้านตื่นขึ้นมาพอดีนายสมานและพวกจึงช่วยกันจับมัดมือ มัดเท้า ใช้ของแข็งทุบตีศีรษะ จน นายไพฑูรย์ เสียชีวิต โดยก่อนหลบหนียังร่วมกันปล้นสร้อยคอทองคำรูปพรรณ หนัก 5 บาท พระเครื่อง และเงินสด ผู้ตายออกมาจากบ้านด้วยจำนวนหนึ่ง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม และชุดสืบสวน บช.ภ.7 จึงสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน จนขออนุมัติหมายศาลตามจับกุมผู้ต้องหารายอื่นๆ เอาไว้ได้ ทั้งสิ้น 3 คน เหลือ นายสมาน อีก 1 คน ที่หลบหนีไปกบดานตามสถานที่ต่างๆ กระทั่งย้อนกลับมาทำการเกษตรในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยาบ้านเกิด จึงโดนตามรวบตัวไว้ได้ในที่สุด
จากการสอบสวนนายสมาน ยอมรับว่า ตนและผู้ต้องหาทั้งหมดมีพื้นเพเดิมอยู่ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ปกติไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่งแต่ชอบตระเวนเที่ยวไปตามบ่อนไก่ชนตามจังหวัดต่างๆ และตั้งแก๊งรับงานวางยาไก่ชนตามบ้านเพื่อสกัดคู่แข่งให้ผู้ว่าจ้าง ก่อนจะถึงการแข่งขันพนันไก่ชนในพื้นที่ต่างๆ
สำหรับผู้เสียชีวิตรายนี้ทีแรกก็ตั้งใจจะเข้าไปวางยาไก่ที่บ้านเท่านั้น แต่บังเอิญเหยื่อก็จำหน้าพวกตนได้ เพราะรู้จักกันดีในวงการไก่ชน จึงตัดสินในช่วยกันจับมัด รุมทุบจนตายและนำทรัพย์สินออกมาขาย แบ่งเงินกันได้คนละ ราวๆ 26,000 บาท และแยกย้ายกันหลบหนี
เบื้องต้นชุดจับกุมจึงเเจ้งข้อหา “ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้จัดทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้าโดยใช้ยานพานะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร” ก่อนคุมตัว นายสมาน ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี ดำเนินคดีต่อไป.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Khaosod