8 ปีมีเงินล้านซื้อที่ดิน จากยากจนสู่สาวเลี้ยงไก่ชน รายได้เสริมเดือนละ 3 หมื่น
หลายคนเริ่มหันมาใช้ชีวิตพอเพียง หันมากลับบ้านเกิดทำการเกษตรหรือสร้างรายได้พอเลี้ยงชีพ ดีกว่าไปเบียดเสียดกันในเมืองหลวง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จ เพราะการทำเกษตรให้สำเร็จนั้น ต้องอาศัยความมุ่งมั่น พยายาม และไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค แม้ไม่มีต้นทุนแค่ไหน เหมือนกับหญิงสาวคนนี้ คนึงนิจ กุลตัน หรือ นิ เธอคือสาวยอดนักสู้ ที่แม้จะจบป.ตรี ก็ผันตัวเองมาทำการเกษตรที่บ้านเกิด และเก็บเงินจนสามารถซื้อที่ดิน ปรับปรุงบ้านให้กับพ่อแม่ให้แข็งแรงมั่นคงมากขึ้น ทั้งๆ ที่เธอมาจากครอบครัวชาวนา ฐานะยากจน ไม่มีต้นทุนใดๆ เลย
นิเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอว่า เธอต้องออกมาทำงานตั้งแต่อายุ 17 ปี หลังเรียนจบ ม.3 เนื่องจากเธอและแม่ประสบเหตุต้องรักษาตัว ระหว่างไปเก็บมะม่วง เกือบเดินไม่ได้ ต้องหยุดเรียนมาอยู่บ้านทั้งที่น้องอายุได้แค่ 1 ขวบ ไม่มีนมจะกิน ทำให้ต้องไปเก็บผักหาปลามาขายวันละ 5-15 บาท ประทังชีวิต
กระทั่งเธอขอสู้ต่อ มุ่งมั่นทำงานในเมืองกรุง พาร์ทไทม์ชั่วโมงละ 30-40 บาทเธอผ่านมาแทบทั้งหมดแล้ว ทั้งส่งเงินให้พ่อแม่ และยังส่งตัวเองให้เรียนจนจบระดับ ปวส. ในสาขาคอมพิวเตอร์ และได้ย้ายไปทำงานที่มั่นคงในออฟฟิศในที่สุด
นิ กล่าวว่า ทุกครั้งที่เธอทำงานแล้วเครียดหรือเหนื่อย จะเดินออกไปมองทุ่มหญ้าเขียว รับลม รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข จึงก่อเกิดเป็นไอเดียกลับไปทำเกษตรแถวบ้านเกิด คิดดังนั้น สาวสู้ชีวิตคนนี้จึงรีบทำงานเก็บเงิน และมีเงินเก็บซื้อที่ดินในราคาเกือบล้าน ในเวลาเพียง 8 ปีเท่านั้น
เธอลงทุนศึกษาทุกอย่าง ทำการเกษตรควบคู่ไปกับทำงานประจำ เพื่อที่จะใช้หนี้ทั้งหมด และเธอก็สามารถทำได้สำเร็จ จากที่ไม่ได้มีต้นทุนอะไรเลย สาวคนนี้จัดการ ปลูกผักผลไม้กินเองทุกอย่างที่ชอบ อาทิ กล้วยน้ำว้า มะม่วง ตะลิงปลิง ฝรั่ง มะยงชิด บ่อเลี้ยงปลา เน้นกินไม่เน้นขาย ทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพในระดับที่บอกต่อกันปากต่อปาก
นอกจากการเกษตรแล้ว เธอยังขยันพัฒนาขวนขวายหาความรู้ เลี้ยงไก่ชนโดยอาศัยวิชาครูพักลักจำ และสอบถามข้อมูลเพื่มเติมจากเพื่อนๆ ในแวดวงออนไลน์ ฝึกทำเองจนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และได้รับความเชื่อมั่นในลูกค้า ไม่กี่ปี “จรินทร์ ฟาร์ม ไก่ชน” จึงก่อตั้งขึ้นตามที่เธอใฝ่ฝัน สร้างรายได้เสริมขั้นต่ำเดือนละ 30,000 จากการขายแม่ไก่ตัวละ 2,000 บาท และลูกไก่คู่ละ 2,000 บาท
นิเน้นย้ำว่า เธอไม่ได้ลงทุนมากๆ เพื่อหวังกำไรเยอะๆ ในคราวเดียว แต่เธอยึดหลักความพอดีและสมดุล เธอเชื่อว่า หากทำสิ่งที่เรามีความสุขและอยู่กับมันได้อย่างสนุกแล้ว เราจะสามารถประสบความสำเร็จได้เอง เธอเองนั้นชอบเสียงไก่ขันยามเช้ามากๆ จึงมีความสุขกับการเลี้ยงไก่ และความสุขจากการทำเกษตร
สุดท้ายนี้ สาวแกร่งหัวใจสู้ได้ฝากไว้ว่า แม้จะมีต้นทุนชีวิตที่ไม่เท่ากับใคร แต่ขอเพียงแค่มุ่งมั่นตั้งใจ ทำสิ่งที่ใฝ่ฝันไปทีละเล็กละน้อย ค่อยๆ เก็บหอมรอมริบ และที่สำคัญต้องอย่าลืมบุญคุณคุณพ่อคุณแม่ที่เลี้ยงดูส่งเสียเรามา จึงจะทำให้ประสบความสำเร็จและชีวิตได้ดีแน่นอน
ที่มา : thairath