ดูถ่ายทอดสด "อัพเดตทุกเรื่องราวข่าวสารวงการไก่ชน ดูถ่ายทอดสดไก่ชน ครบทุกสนาม ทีเด็ดไก่ชน อัพเดทข่าวไก่ชนทุกประเด็นที่น่าสนใจ แหล่งความรู้สาระเรื่องที่เป็นประโยชน์ผู้เลี้ยงไก่ชน"

ไฮไลท์ไก่ชนล่าสุด

B1
ADS B2
ADS B3
ADS B4
หน้าหลัก ข่าวสารไก่ชน ข่าวไก่ชนออนไลน์ ไก่สวยซุ้มดัง สัตว์เศรษฐกิจใหม่มาแรง "ไก่โปแลนด์" อยู่ในบ้านก็เลี้ยงได้ เลี้ยงง่าย รายได้ดี เดือนนึงเป็นแสนบาท!

สัตว์เศรษฐกิจใหม่มาแรง "ไก่โปแลนด์" อยู่ในบ้านก็เลี้ยงได้ เลี้ยงง่าย รายได้ดี เดือนนึงเป็นแสนบาท!

วันเสาร์ 15 สิงหาคม 2563 ยอดเข้าชม 265
SHARE ON:


   ไก่สายพันธุ์ต่างประเทศ ที่จัดอยู่ในกลุ่มของสัตว์เลี้ยง เพื่อความสวยงาม อาจจะมีอยู่หลายสายพันธุ์ แต่ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในช่วงนี้ ก็ต้องยกให้ ไก่สายพันธุ์โปแลนด์ และสายพันธุ์ ซิลกี้ (Silkie) 

        โดยแหล่งที่มา ของไก่ทั้งสองสายพันธุ์ ดังกล่าวมาจากยุโรป และสหรัฐอเมริกา มาทำความรู้จักกับ ไก่ทั้งสองสายพันธุ์ เริ่มจากไก่โปแลนด์ ไก่พันธุ์นี้ ไม่ได้มาจาก ประเทศโปแลนด์ 

 


 

        แต่ที่มาของชื่อ น่าจะมาจาก ลักษณะขนจุกบนหัว ที่รูปทรงเกือบจะเป็นสี่เหลี่ยม คล้ายหมวกแก็ป ที่ทหารโปแลนด์สวมในอดีต ซึ่งเชื่อว่าไก่สายพันธุ์นี้ ถูกนำมาจากประเทศสเปน และมีการเลี้ยง กันอย่างแพร่หลาย ในประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างปี ค.ศ. 1830-1840 ซึ่งใช้เป็นไก่ไข่ แต่หลังจากนั้น เป็นความพยายาม ของกลุ่มคนเลี้ยงไก่ เพื่อความสวยงาม พยายามผสมข้าม สายพันธุ์ จนได้ไก่โปแลนด์ที่แปลกตา และมีความสวยงาม

 

     

  สำหรับในส่วนของไก่ซิลกี้ เป็นสายพันธุ์ไก่ ที่มีขนนุ่มเป็นพิเศษ จนนำมาเปรียบเทียบความนุ่ม ของขนเหมือนเส้นไหม มีสีสวยงาม และมีหลายสี เป็นไก่ที่มีผิวดำ, กระดูกดำ, มีขนหลากหลายสี ขนปุกปุยตัวกลม ทำให้ไก่ซิลกี้ ได้รับความนิยม ของกลุ่มคนเลี้ยงไก่ เพื่อความสวยงาม ประวัติความเป็นมา ไม่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่า มีจุดเริ่มต้น จากประเทศจีนโบราณ (เพราะบางครั้ง พบอีกชื่อคือไก่ ผ้าไหมจีน)

        ส่วนชื่อ silkies มาจาก Marco silkies ซึ่งในปี 1874 ไก่ซิลกี้ ได้รับการยอมรับ ในทวีปอเมริกาเหนือ และได้รับมาตรฐาน กลายเป็นไก่สามัญ มากขึ้นในตะวันตก โดยสายพันธุ์ไก่ซิลกี้ มี 2 สายพันธุ์ แบบมีเครา และไม่มีเครา แบบเคราจะมีเคราหรือ ขนใต้จะงอยปากถึงหู สีที่ได้รับความนิยม ได้แก่ สีดำ , สีน้ำเงิน , Buff , สีเทา , นกกระทา , และสีขาว

 

              
 

        สำหรับไก่ ทั้ง 2 สายพันธุ์ ในประเทศไทย มีการนำเข้ามา ได้ ประมาณ 5-6 ปี ที่ผ่านมา และจัดเป็นสัตว์เลี้ยง เพื่อความสวยงาม ปัจจุบัน ผู้เลี้ยงสามารถ เพาะและขยาย รวมถึงผสมข้าม สายพันธุ์ จนได้ไก่ที่มีความแปลกใหม่ รองรับกลุ่มคนที่ชื่นชอบ ไก่สายพันธุ์นี้ และหนึ่งในนั้น คือ ฟาร์ม Doxxa House ของคุณศักดา บรรพจุลจินดา หรือฟาร์มไก่คุณนิ้ง

 

        คุณศักดา เล่าว่าได้เริ่มเลี้ยงไก่ ทั้ง 2 ชนิด เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งเกิดจากความชอบ ส่วนตัว และซื้อจากผู้เพาะเลี้ยงในประเทศไทย มาเลี้ยงไว้ดูเล่น ก่อนจะมาเป็นธุรกิจ เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา

 

        ซึ่งที่มาของธุรกิจ เกิดมาจาก คนรู้จักที่แวะเวียนมาหา ที่บ้าน ทุกคนต่างก็ชื่นชอบ และต้องการไก่ ไปเลี้ยงบ้าง ก็เลยคิดว่าถ้าเราศึกษาเพิ่มเติม ก็น่าจะเพาะ  พันธุ์ไก่ขายได้ เริ่มจากการขาย คนรู้จักก่อน เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ก่อนจะมาทำเต็มตัว เป็นอีกอาชีพหนึ่ง ที่สร้างรายได้ อย่างที่ตัวเอง ก็ไม่คาดคิดมาก่อน

 

              

 

        ไก่ที่ผมนำมาเพาะ จำหน่าย เป็นไก่ที่นำเข้าพ่อแม่พันธุ์จาก ประเทศสหรัฐอเมริกา สาเหตุที่ไม่ได้ใช้ไก่ที่เลี้ยงในครั้งแรก มาใช้ขยายพันธุ์ เพราะไก่ยังไม่สวยพอ ซึ่งก่อนหน้าที่ จะเพาะจำหน่าย ผมได้ศึกษาเรื่องไก่ทั้ง 2 ชนิด พบว่าในต่างประเทศ มีไก่สวยเยอะ ก็เลยคิดหา วิธีนำเข้าพ่อ แม่ พันธุ์น่าจะได้ไ ก่ที่สวย แต่การนำเข้าพ่อแม่ พันธุ์มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ก็เลยตัดสินใจ นำเข้าไข่ และมาฟักเอง ซึ่งช่วยให้ประหยัด ต้นทุน และเวลาได้เยอะ คุณศักดา เล่าถึงที่มา


 

        ปัจจุบันไก่ที่ คุณศักดา เพาะเลี้ยง ได้จะแบ่งเป็น ไก่ซิลกี้ ขนนุ่ม ขนย้อนกลับ และไก่ซิลกี้ พันธุ์โชว์เกิร์ล ไม่มีขนคอ ส่วนไก่โปแลนด์ แบ่งเป็นขนเรียบ และขนย้อนกลับ เช่นกัน โดยตอนนี้ มีพ่อแม่ พันธุ์ประมาณ 60 ตัว ในแต่ละเดือนจะได้ไข่ไก่ ประมาณ 150-170 ฟอง

 

                                   

        ซึ่งไก่ ที่เพาะได้จะมีทั้งไก่ ที่เพาะข้ามสาย พันธุ์จนได้สีที่แปลกใหม่ และ ไก่ที่เป็นสาย พันธุ์และสีดั้งเดิม  การเลี้ยงไก่ ทั้ง 2 ชนิดนี้ ไม่ได้แตกต่าง จากการเลี้ยงไก่ พื้นบ้านทั่วไป อาหารชนิดเดียวกัน คือ อาหารไก่ และถ้าเป็นอาหารเสริม ผักและผลไม้ บ้างเป็นบางโอกาส

 

              


        อายุของไก่ ที่สามารถขยาย  มพันธ์ได้ ประมาณ 8 เดือน อายุของไก่ ถ้าเป็นโปแลนด์ 5-6 ปี แต่ถ้าเป็นไก่ซิลกี้ อายุสั้นกว่า ไม่เกิน 5 ปี โดยไก่ที่สามารถ ส่งให้ลูกค้าได้ ตั้งแต่ เดือนแรก เป็นต้นไป ในราคาที่แตกต่าง กัน คือ ไก่ซิลกี้ ราคา ตัวละ 500- 1,000 บาท ส่วนไก่ โปแลนด์ ราคาตัวละ 1,000-1,500 บาท แต่ถ้าเป็น แบบขนย้อนกลับ ราคาจะ คูณสอง

        คุณศักดาบอกว่า ปัจจุบันลูกค้า ให้การตอบรับดีมาก ซึ่งไก่ที่เพาะได้ แต่ละเดือน ยังไม่พอ กับจำนวนลูกค้า ที่มีการสั่งซื้อเข้ามา โดยลูกค้ากว่า 80% เป็นลูกค้า ต่างจังหวัด โดยส่วนใหญ่ เป็นลูกค้าจาก ทางภาคเหนือ และอีสาน มากกว่า ทางภาคใต้ และยังได้ออเดอร์ ลูกค้าจาก สปป.ลาว สั่งเข้ามาทุกเดือน เพื่อนำจำหน่าย อีกที่หนึ่ง

 

               

        สำหรับฟาร์มไก่ คุณนิ้ง ใช้พื้นที่บริเวณ บ้านจัดสรร ที่หมู่บ้าน มิตรประชา วิลล่า โครงการ 15 ถนนบางกรวย ไทร น้อย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี บนพื้นที่ 118 ตารางวา แบ่งพื้นที่ สำหรับเลี้ยงไก่ กว่า 50 ตารางวา ทำเล้าไก่ และพื้นที่ บางส่วนเ ป็นพื้นดิน เพื่อให้ไก่ ได้ออกมาวิ่งเล่น และออกกำลังกาย

 

                      

     

       เดิมคุณศักดา เป็นพนักงานประจำ และลาออกจากงาน มารับงานออกแบบ ตกแต่ง ภายใน แต่รายได้ ไม่ดีนัก แต่พอหันมาเลี้ยงไก่ สามารถทำรายได้ ถึงหลักแสน บาทต่อเดือน เขาใช้ช่องทาง การขายหลัก ตอนนี้ คือ ผ่านหน้าเพจเซฟบุ๊ก เป็นหลัก โดยเขา เป็นรายแรก ๆ ที่ทำตลาดไก่ซิลกี้ ผ่านหน้าเพจอย่างจริงจัง

 

              

       

        คุณศักดา บอกว่า เขาพยายาม อัพรูปภาพ ความน่ารัก และความสวยงาม ของไก่อยู่เรื่อยๆ เพราะไก่ทั้ง 2 ชนิด ยังเป็นสิ่งใหม่ สำหรับคนไทย แม้ว่า จะมีผู้เลี้ยง ก่อนหน้านี้ แต่อยู่ในวงแคบ ไม่ได้มีการแนะ ให้คนทั่วไป ได้รู้จัก

        พอตนเอง มาทำการตลาด ก็อยากจะแนะนำ ให้คนไทยได้รู้จัก มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกงาน อีเวนท์ การนำไก่ไปโชว์ตัว ตามที่ต่าง รวมถึง การออกสื่อ เป็นการกระตุ้นตลาด ให้กว้างมากขึ้น เพื่อโอกาส ทางการขาย ที่มากขึ้นต่อไปในอนาคต


 

ADS Fix3
ADS Fix5