บ้านเราในบางพื้นที่จะมีเมนูแปลกๆโหดๆหลงเหลืออยู่ ยกตัวอย่างเช่น เมนูไก่กะทิ หรือไก่หลุม
คนทำจะเริ่มจาก ขุดดิน จากนั้นก็เอาไก่ฝังดินให้โผล่คอออกมา จากนั้นก็เอาน้ำกะทิกรอกปากมันแทนอาหาร ผ่านไปสองสัปดาห์ ก็ขุดไก่ขึ้นมา ไก่ที่ขุดขึ้นมาได้นี่ก็จะขนร่วงหมดตัว แล้วก็เอาไปเชือดทำอาหาร โดยคนที่คิดวิธีแบบนี้ เขาเชื่อว่า จะทำให้่ได้เนื้อไก่ที่ชุ่มกะทิหวานหอมอะไรทำนองนั้น คิดว่าคนคิดสูตรแปลกๆนี้น่าจะอาศัยหลักการเดียวกับการทำฟัวกราส์ของ ตปท ที่เขาเอาอาหารจับกรอกปากห่านมากกว่าปริมาณปรกติเป็นสิบเท่าเพื่อขุนห่านให้อ้วนมากๆจนเกิดไขมันพอกตับ แล้วเอาตับไขมันพอกมากินเป็นฟัวกราส์
(ปัจจุบันธุรกิจฟัวกราส์ก็ถูกด่าว่าทรมานสัตว์เช่นกัน และมีการพัฒนาวิธีการผลิตฟัวกราส์ใหม่ๆมาใช้โดยไม่ต้องจับกรอกอาหารใส่ปากห่าน
ใครสนใจดูได้ที่ https://ch3thailandnews.bectero.com/news/160524 )
ประเด็นคือ
1. การเอาไก่ไปฝังดิน เชื้อโรคเยอะมาก แถมไก่ยังขนร่วงหมดตัว พอขนร่วง ไม่มีขนที่ทำหน้าที่ป้องกันผิวหนังจากเชื้อโรคภายนอก ก็ได้รับเชื้อโรคแบบเต็มๆ
2. การขุดหลุมฝังไก่ในดิน ไก่มันก็ขี้ ของเสียก็อาจหมักหมมจนทำให้ผิวหนังบริเวณตูดไก่อักเสบติดเชื้อ
3. การฝังไก่ในดินก็คือการบังคับให้ไก่อยู่นิ่งๆไม่ออกกำลังกาย กินอย่างเดียว สุขภาพของไก่ย่อมแย่ลง
4.การจับกรอกกะทิ ไม่ได้ทำให้กะทิไปแทรกในเนื้อไก่ มันผิดหลักวิทยาศาสตร์ กะทิที่กินไปก็จะถูกดูดซึมผ่านลำไส้ ย่อยและกลายเป็นสารอาหารที่ไก่ใช้ ถ้าไก่ไม่ได้ออกแรงอะไร สารอาหารมันก็ไปสะสมเป็นไขมันพอกตามร่างกาย ไอ้วิธีการทำแบบนั้นมันไม่ได้ทำให้ได้ไก่รสกะทิอะไรหรอก แค่ทำให้ไก่อ้วนเฉยๆ ใช้วิธีอื่นก็ได้ไม่ต้องทำแบบนี้
5.วิธีการแปลกๆแบบนี้จะทำให้ไก่ป่วยไม่สบาย ไม่ใช่ไก่แข็งแรงที่ควรบริโภคแต่ประการใด และยังเป็นการทรมานมันโดยไม่จำเป็นด้วย คือคนเรากินเนื้อสัตว์เป็นเรื่องปรกติ แต่เราก็ควรกินแบบไม่ให้สัตว์มันทุกข์ทรมานมาก เชือดตามปรกติ ให้มันตายไวที่สุดโดยไม่ทรมาน แล้วกินเนื้อมันอย่างรู้คุณค่าของชีวิตสัตว์ที่เรากินไป
สรุป แดกไก่ธรรมดาๆดีแล้วครับ อย่าไปเปิบพิศดารอะไรให้มันมากนักเลย
Cr.Drama-addict