แห่ขอหวยไก่แจ้คู่บารมีไอ้ไข่วัดเจดีย์คอหวยแห่กราบไหว้
ไก่แจ้คู่บารมีไอ้ไข่วัดเจดีย์!!คอหวยแห่กราบไหว้เจ้าพ่อไก่แจ้ตัวเป็น ๆ คู่บารมีไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์-อ.แว่น เจ้าอาวาสให้อาศัยในศาลาโรงธรรมท่ามกลางผู้คนพลุกพล่านแต่ไม่ตื่นกลัวแม้แต่น้อย-คอหวยไม่พลาดแห่ตีเลขเด็ดเสี่ยงโชคคึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่ช่วงวันหยุดยาวเนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษาที่ผ่านมา ได้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศจำนวนมากแห่เดินทางมายังวัดเจดีย์ ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เพื่อกราบไหว้ขอพรไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์สุดยอดกุมารเทพในยุคนี้ ในขณะที่สองข้างทางมีการก่อสร้างอาคารร้านค้า ร้านจำหน่ายสินค้าที่ใช้สำหรับการบนบานหรือแก้บนไอ้ไข่ รวมทั้งร้านอาหาร ร้านน้ำชา-กาแฟ เรียงรายตลอดสองข้างทาง ทำให้บรรยากาศตลอดทั้ง 4 เส้นทางที่มุ่งหน้าสู่วัดเจดีย์ เป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากประชาชนและนักท่องเที่ยวถือโอกาสแวะลงจับใช้จ่ายสอย เลือกซื้อสิ่งของเซ่นไหว้ เตรียมไปบนบานและแก้บน เช่น ลูกประทัด ตุ๊กตาไก่ ชุดทหาร และอื่น ๆ สร้างรายได้ให้กับทุกร้านวันละหลายหมื่นบาท
นายวุฒิชัย ใจห้าว เจ้าของร้าน "บ่าวเอประทัด" กล่าวว่า ร้านบ่าวเอประทัดเป็นร้านขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาร้านที่จำหน่ายสินค้าเซ่นไหว้แก้บนได้ไข่วัดเจดีย์ ตั้งอยู่ริมถนนตรงข้ามกับทางเข้าวัดเจดีย์พอดีบริเวณร้านยาวกว่า 100 เมตร ซึ่งเป็นร้านที่จำหน่ายสินค้าทุกชนิดครบวงจรและราคาถูกกว่าร้านอื่น ๆ ทำให้มีลูกค้าแห่เข้าไปซื้อมากที่สุด และคาดว่าในช่วงตั้งแต่วันที่ 4-15 ก.ค.2563 มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาวัดเจดีย์ไม่ต่ำกว่าวันละ 30,000 คน รวม 12 วันไม่ต่ำกว่า 300,000 คน
โดยนอกจากผู้คนจะแห่เดินทางมากราบไหว้ขอพระไอ้ไข่วัดเจดีย์ ภายในวัดเจดีย์ยังมีต้นตะเคียนยักษ์ยืนต้นตาย หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ตะเคียนตายพรายW ซึ่งเชื่อกันว่ามีวิญญาณเจ้าแม่ตะเคียนสิงสถิตอยู่ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านกราบไหว้บูชาคู่กันกับรูปปั้นไอ้ไข่ โดยเฉพาะยิ่งใกล้วันหวยออกทั้งชาวบ้านและคอหวยจากทั่วทุกสารทิศแห่กันมากราบไหว้ไอ้ไข่และใช้แป้งทาลูบหาเลขเด็ดจากท่อนตะเคียนตายพราย เพื่อขอเลขเด็ดไม่ขาดสายตลอดทั้งวันซึ่งต่างก็ได้เลขเด็ดกันไปต่าง ๆ นา ๆ ตามความเชื่อและโชคลาภของแต่ละคน
"อย่างไรมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจำนวนหลายรายที่เคยเดินทางมาบนบานไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ ได้ถือโอกาสเข้ากราบนมัสการพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ หรืออาจารย์แว่น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์(ไอ้ไข่) ซึ่งเจ้าอาวาสจะออกมานั่ง ในศาลาโรงธรรมข้างโบสถ์เพื่อต้อนรับและสั่งเกตุการณ์ อำนวยการการให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด โดยผู้คนต่างแปลกใจที่ภายในศาลาโรงธรรมดังกล่าวมีไก่แจ้ตัวหนึ่ง เพศผู้ อายุประมาณ 5-6 ปี สีแดงสลับดำ มีหงอนสีแดง ขนาดใหญ่ เดือย 2 ข้างแหลมและยาวกว่า 1 นิ้ว จะเดินเล่นวนเวียนอยู่ในศาลโรงธรรมและมักจะเดินตามพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ หรือ"พระอาจารย์แว่น"ไม่ยอมห่างและไม่มีท่าทีตื่นกลัวผู้คนแม้แต้น้อย"
พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ หรืออาจารย์แว่น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์(ไอ้ไข่) กล่าวว่า คาดว่าเจ้าไก่แจ้ตัวดังกล่าวเป็นไก่แจ้ที่มีคนนำมาแก้บนแล้วปล่อยไว้ในวัด มันจึงเข้ามาอาศัยอยู่ในศาลาโรงธรรมข้างโบสถ์แห่งนี้ เท่าที่ตรวจสอบพบว่ามันค่อยข้างจะคุ้ยเคยกับผู้คน ไม่แตกตื่นตกใจแม้ในแต่ละจะมีผู้คนเดินทางเข้ามาในวัดจำนวนมาก เชื่อว่าเดิมทีเจ้าไก่แจ้ตัวนี้เจ้าของเดิมคงเลี้ยงไว้สำหรับการขึ้นราวแข่งขันและน่าจะเคยลงสนามแข่งขันมาแล้วหลายครั้ง เพราะที่ขาขวายังมีเชือกถักบ่วงผูกติดอยู่ อาตมาจึงอนุญาตให้มันอาศัยอยู่ตามประสาของมันมานาน 4-5 ปีแล้ว แม้มันจะเดินพ่านพ่านไปทั่วแต่ก็ไม่สร้างความเดือดร้อนหรือส่งผลกระทบกับนักท่องเที่ยวเลย มันน่ารักอีกต่างหาก รูปร่างรูปทรงและสีสันต์สวยสง่าดูน่าเกรงขาม"ผลกระทบจากเจ้าไก่แจ้ตัวนี้มีอยู่อย่างเดียวคือมันจะถ่ายขี้อออกมาตามจุดต่าง ๆ อาจจะดูสกปรกเรี่ยราด จนเจ้าหน้ที่ของวัดพยายามจะนำเจ้าไก่แจ้ไปล่อยในจุดอื่น ๆ แต่มันจะเดินกลับมาอาศัยอยู่ในศาลาโรงธรรมเหมือนเดิม อาตมาจึงแจ้งกับเจ้าหน้าที่ปล่อยให้มันอยู่อาศัยในศาลาโรงธรรมแห่งนี้ตามสบายและตามธรรมชาติของมัน พร้อมสั่งห้ามไม่ต้องไปหยิกไล่มันอีก ทุกวันนี้ไก่แจ้ตัวนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของวัดเจดีย์ไอ้ไข่ หรือ "ไก่แจ้คู่บารมีได้ไข่"ไปโดยปริยาย ส่วนปัญหาเรื่องขี้ไก่ก็ไม่มีปัญหาใด ๆ อาตมาและเจ้าหน้าที่ก็คอยเอากระดาษทิชชู่คอยเช็ดออก ก็ไม่ได้สร้างความลำบากยากเย็นอะไรมากนัก"พระอาจารย์แว่นกล่าวอย่างเมตตาสงสาร
"คอหวยในพื้นที่คนหนึ่ง กล่าวว่า ไก่แจ้ตัวนี้มีความพิเศษหลาย ๆ อย่างที่ไม่เหมือนกับไก่แจ้ทั่ว ๆ ไป มันจะเดินวนเวียนอยู่ภายในศาลาโรงธรรมอย่างไม่ตื่นกลัวผู้คน ไม่สะทกสะท้าน และดูทระนงองอาจ เหมือนกับว่ามันเป็นเจ้าของโรงธรรมโดยมันดูจะให้เคารพย่ำเกรงพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ หรืออาจารย์แว่น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์(ไอ้ไข่) มากกว่าพระภิกษุ สามเณรหรือเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ และจะชอบไปยืนหน้าภาพถ่ายพระครูเจติยาภิรักษ์ หรือพระอาจารย์เทิ่มอดีตเจ้าอาวาสผู้จัดสร้างเหรียญไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ รุ่นแรก และภาพไอ้ไข่ที่วางอยู่หลังพระพุทธรูป และไก่แจ้ตัวนี้มันจะไม่ขันพร่ำเพรื่อเหมือนไก่แจ้ทั่ว ๆไป แต่หากเป็นวันพระ 8 ค่ำ 15 ค่ำ หรือวันสำคัญทางพระพุทธศาสนามันจะโก่งคอขันเสียงไพเราะเพราะพริ้งอย่างมาก จนหลายคนเชื่อว่าไก่แจ้งตัวนี้เป็นไก่แจ้คู่บารมีไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์อย่างแท้จริง และสอดคล้องกับความเชื่อและความนิยมที่มีการนำตุ๊กตาไก่มาถวายแก้บนไอ้ไข่ จนตุ๊กตาไก่ขนาดต่าง ๆ หลายแสนตัววางเรียงรายเต็มพื้นที่วัดนับ 100 ไร่ ในขณะที่บรรดาคอหวยเคยนับจำนวนเสียงที่ไก่แจ้ตัวนี้ขันไปเสี่ยงโชคซื้อลอตเตอรี่และหวยใต้ดินถูกกันมาหลายครั้งแล้ว สำหรับในงวดนี้มีคนที่เดินทางมาที่วัดเจดีย์ ในช่วงเทศกาลอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา ที่ผ่านมาตีเลขเด็ดไก่แจ้ตัวนี้ เช่น เลข 195,295 197,297 เป็นต้นนำไปเสี่ยงโชคอย่างคึกคักเช่นกัน".