เจ้าสัวมองตลาดไก่ชนขาดเหมือนตาเห็น เสียดายที่รัฐไม่ส่งเสริม
เล่นหวยใต้ดินมีแต่เสีย เลี้ยงไก่ชนมีแต่ได้
คุณธนินท์บอกว่า ในสมัยโบราณมีคำพูดที่ว่า “ช้างคู่เมือง ไก่คู่บ้าน” ทุกบ้านต้องเลี้ยงไก่ ไว้กินไข่ กินเนื้อ ไก่ชนที่ชาวบ้านเลี้ยงกันทุกวันนี้ถือเป็นพันธุ์ไก่เนื้อดั้งเดิมของไทยที่เราต้องอนุรักษ์ไว้ ให้อยู่คู่กับคนไทย ตัวเก่งนำไปตีชนะก็มาขายได้เป็นหมื่นเป็นแสนบาท ดีกว่าไปซื้อล็อตเตอรี่ไม่ต้องไปเล่นหวยใต้ดินมีแต่เสีย เลี้ยงไก่มีแต่ได้ บางคนบอกว่าการเลี้ยงไก่ชนใต้ถุนบ้าน “เปรียบเหมือนตู้เย็นเคลื่อนที่”สมัยโบราณไม่มีตู้เย็นก็ทยอยเชือดไก่ใต้ถุนบ้าน
ส่งเสริมการเลี้ยงไก่ เมื่อเลี้ยงได้ผลผลิตแล้วไปขายที่ไหน เราต้องสร้างตลาดครบวงจร เลยสร้างสนามชนไก่เป็นที่ขายของของเกษตรกร แต่ถ้าไม่มีสนามชนไก่ มูลค่าค่ามันจะไม่เกิด และก็กลายเป็นสถานที่ทำกิจกรรมบันเทิง สัปดาห์หนึ่งมาที่สนามชนไก่ เพื่อความสนุกสนาน แล้วเกษตรกรก็มาแลกเปลี่ยนความรู้กัน เช่น ทำไมถึงขายไก่ชนได้ราคาเป็นหมื่น มีวิธีการเลี้ยงอย่างไร จะกระตุ้นให้กลับไปเลี้ยง ธุรกิจไก่ชน ขายไม่ได้ ไม่เน่าไม่เปื่อยผมจึงมีนโยบายจะขยายสนามชนไก่ไปยังทุกจังหวัด เพื่อส่งเสริมให้มีกีฬาชนไก่เป็นสิ่งถูกกฎหมาย มีระเบียบ มีกติกา ไม่ให้เขาเอารัดเอาเปรียบคนที่มาตีไก่ไม่โกงกันเป็นที่มาสนุกสนานบันเทิงของเกษตรกรสัปดาห์หนึ่งมาที่สนามชนไก่ครั้งหนึ่งมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความรู้ กระตุ้นให้ไปเลี้ยงไก่ เลี้ยงแล้วขายไม่ได้ ก็เป็นอาหารโปรตีน ลดรายได้ เท่ากับเพิ่มรายได้
ที่ผ่านมามีหลายประเทศให้ความสนใจพันธุ์ไก่ชนของไทย ทั้งญี่ปุ่น อินโดนีเซีย อินเดีย ปากีสถาน บาเรล ประเทศอิสล่ามตีไก่กันมากที่สุด โดยมีมูลค่าการส่งออกนับร้อยล้านบาท แต่หลังจากเกิดการระบาดของโรคไข้หวัดนก ทางรัฐบาลไทยไม่ให้ความสนใจ จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายเวลานี้มีการลักลอบขายกันไปทางใต้ ผ่านเข้าทางประเทศมาเลเซีย ไปถึงอินโดนีเซีย หากมีการเปิดเสรี และรัฐบาลไทยเอาจริงเอาจังเราสามารถจะขายพันธุ์ไก่ชนไปยังทุกประเทศในอาเซียน
“ผมมองว่า ในอนาคตประชาชนไทยจะร่ำรวยกว่านี้ เพราะคนจะนิยมกินไก่พื้นบ้านกันมากขึ้น แล้วไก่ชนเนี่ยแม้ราคาแพงกว่าไก่เนื้อทั่วไปหลายเท่าคนที่ร่ำรวยก็จะซื้อ “
แหล่งข้อมูล kaichononline