แอปเปิ้ลแดง vs แอปเปิ้ลเขียว แบบไหนมีประโยชน์มากกว่ากัน
แบ่งปันเกร็ดความรู้เรื่องสุขภาพทั้งโรคภัยไข้เจ็บ วิธีออกกำลังกาย เคล็ดลับลดน้ำหนัก เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง อยู่กินของอร่อยไปได้อีกนาน ๆ
แอปเปิ้ลแดง และแอปเปิ้ลเขียว แม้ว่าจะเป็นแอปเปิ้ลเหมือนกัน แต่รสชาติ และคุณค่าทางสารอาหารแตกต่างกันเล็กน้อยตามสีของเปลือก
ข้อมูลจากนักกำหนดอาหาร แผนกโภชนาการ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ระบุว่า สิ่งที่ทำให้สารอาหารในแอปเปิ้ลแตกต่างกันกลับเป็นช่วงของแสงแดดที่แอปเปิ้ลได้สัมผัสก่อนการเก็บเกี่ยว มีงานวิจัยพบว่า แอปเปิ้ลที่ได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่ก่อนการเก็บเกี่ยวจะมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าแอปเปิ้ลที่อยู่ในร่ม ดังนั้น การเลือกซื้อแอปเปิ้ลให้ได้คุณประโยชน์สูงสุด จะแนะนำให้เลือกแอปเปิ้ลแดงที่มีสีแดงจัด และแอปเปิ้ลเขียวที่อมสีแดงเล็กน้อย
สารอาหารโดยประมาณของแอปเปิ้ลแดง และแอปเปิ้ลเขียว
แอปเปิ้ลเขียว (1 ผล หนัก 150 กรัม)
พลังงาน 82.5 Kcal
น้ำตาล 15 กรัม
ใยอาหาร 6.15 กรัม
วิตามินซี 1.7 มิลลิกรัม
เบต้าแคโรทีน 40.5 ไมโครกรัม
แอปเปิ้ลแดงฟูจิ (1 ผลกลาง หนัก 300 กรัม)
พลังงาน 178.2 Kcal
น้ำตาล 18.6 กรัม
ใยอาหาร 10.2 กรัม
วิตามินซี 12 มิลลิกรัม
เบต้าแคโรทีน 96 ไมโครกรัม
เนื่องจากแอปเปิ้ลแดงมีขนาดใหญ่กว่าแอปเปิ้ลเขียวกว่าครึ่ง หากลองหารครึ่งตามน้ำหนักของแอปเปิ้ลที่ต่างกันครึ่งหนึ่ง จะได้คุณค่าทางสารอาหารจากแอปเปิ้ลแดงในปริมาณที่เท่ากับแอปเปิ้ลเขียว ดังนี้
พลังงาน 89.1 Kcal
น้ำตาล 9.3 กรัม
ใยอาหาร 5.1 กรัม
วิตามินซี 6 มิลลิกรัม
เบต้าแคโรทีน 48 ไมโครกรัม
หากเปรียบเทียบสารอาหารของแอปเปิ้ลแดงกับแอปเปิ้ลเขียวในปริมาณที่เท่ากันแล้ว จะเห็นได้ว่าให้สารอาหารที่ใกล้เคียงกัน
กินแอปเปิ้ลทั้งเปลือก ได้ประโยชน์กว่า
อย่างไรก็ตาม การจะกินแอปเปิ้ลให้ได้สารอาหารมากๆ ควรกินทั้งเปลือก เพราะสารอาหารส่วนใหญ่ของแอปเปิ้ลอยู่ที่เปลือก ซึ่งส่วนใหญ่มักจะปอกเปลือกออกกันหมด
หากกังวลเรื่องสารตกค้างบนเปลือก แนะนำให้แช่แอปเปิ้ลในสารละลายเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา ต่อน้ำสะอาด 2 ถ้วยตวง แช่ไว้ 15 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำไหลผ่านจนกว่าจะหายลื่น เพียงเท่านี้ก็สามารถรับประทานแอปเปิ้ลได้อย่างสบายใจ