ประโยชน์ของขิง
     สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ วันนี้เรามีสาระความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรพื้นบ้านของเรามาฝากกันค่ะ ซึ่งสมุนไพรที่เรานำมาฝากนั้นก็คือ ขิง นั่นเองค่ะ ซึ่งสรรพคุณ และ ประโยชน์ของขิง จะเป็นอย่างไรนั้น ไปดูกันเลยค่า

หนึ่ง
ทำความรู้จักกับขิง
     ขิง (Ginger) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Zingiber officinale Roscoe เป็นพืชล้มลุกจัดอยู่ในวงศ์ขิง (ZINGIBERACEAE) ขิงมีลักษณะเป็นพืชมีเหง้าใต้ดินเป็นข้อ ๆ เนื้อในสีขาว หรือเหลืองอ่อน ปลายสุดของข้อจะเป็นที่แทงยอด หรือลำต้นเทียม ลำต้นสูงพ้นพื้นดินขึ้นมา 50-100 เซนติเมตร  มีกาบ หรือโคนใบหุ้ม ส่วนใบของขิง เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกันเป็นสองแถว ใบรูปหอก ปลายใบสอบเรียวแหลม โคนใบสอบแคบ และจะเป็นกาบหุ้มลำต้นเทียม และดอกของขิง จะมีลักษณะเป็นช่อทรงกระบอก แทงขึ้นมาจากเหง้า กลีบดอกสีเหลืองอมเขียว อุ้มน้ำ และหลุดร่วงไว โคนกลีบดอกม้วนห่อ ส่วนปลายกลีบผายกว้างออก ใบประดับสีเขียว มีแต้มแดงตรงโคน

สอง ประโยชน์ของขิง
คุณค่าทางโภชนาการของขิง (ต่อ 100 กรัม)
พลังงาน 25 กิโลแคลอรี่
โปรตีน 0.4 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 4.4 กรัม
ไขมัน 0.6 กรัม
เส้นใยอาหาร 0.8 กรัม
เหล็ก 1.2 มิลลิกรัม
แคลเซียม 18 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 22 มิลลิกรัม
เบต้าแคโรทีน 10 ไมโครกรัม
วิตามินซี 1 มิลลิกรัม
ไธอะมีน 0.02 มิลลิกรัม
ไนอะซีน 1 มิลลิกรัม
ไลโบฟลาวิน 0.02 มิลลิกรัม
สาม
ประโยชน์ของขิง
สรรพคุณ และ ประโยชน์ของขิง ดังนี้
ช่วยแก้อาการเมารถเมาเรือ บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน
ช่วยแก้ปัญหาผมขาดร่วง
ช่วยแก้อาการแพ้ท้องสำหรับสตรีตั้งครรภ์
ช่วยลดอาการท้องอืด
ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ และไมเกรน
ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดความดันโลหิตสูง
ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
ช่วยรักษากรดไหลย้อน
ช่วยบรรเทาอาการไข้สูง
ช่วยแก้อาการร้อนใน
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เรียบเนียน
ช่วยดับกลิ่นในช่องปาก แก้อาการปากเหม็น 
ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีในร่างกาย
ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น
ช่วยป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ลดอาการจุกเสียด
ช่วยรักษาอาการปวดในช่วงก่อนหรือหลังประจำเดือน
ช่วยในการย่อยอาหาร
ช่วยทำให้นอนหลับได้อย่างสบาย
ช่วยแก้หวัด บรรเทาอาการไอ บรรเทาหวัดจับเสมหะ
ช่วยลดความอ้วน ลดระดับไขมัน คอเลสเตอรอล
ช่วยบรรเทาอาการเมาค้าง
ช่วยชะลอความแก่และชะลอการเกิดริ้วรอย
ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น และช่วยในการขับเหงื่อ
เป็นยาอายุวัฒนะและยาบำรุงร่างกาย
สี่ ประโยชน์ของขิง
ข้อควรระวัง
     1. ขิงมีฤทธิ์เผ็ดร้อน หากรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดแผลในปากได้

     2. ขิงมีสรรพคุณต้านการแข็งตัวของเลือด หากมีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบไหลเวียนของเลือด หรือกำลังรับประทานยาละลายลิ่มเลือดอยู่ ไม่ควรรับประทานขิง หรือควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน

     3. ไม่ควรรับประทานขิงเกิน 4 กรัม/วัน อาจทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้

     4. เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนในขณะตั้งครรภ์ หญิงตั้งครรภ์จึงไม่ควรรับประทานขิง แม้ขิงจะสามารถแก้อาการวิงเวียนได้ แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อความมั่นใจและปลอดภัย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะรับประทานจะดีที่สุด

     และนี่คือประโยชน์ของขิงที่เรานำมาฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าขิงนั้นมีประโยชน์กับร่างกายของเรามาก ๆ เลยนะคะ แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อน ๆ ก็ต้องทานขิงอย่างระมัดระวัง และไม่ควรทานเยอะจนเกินไปนะคะ เพราะอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายของเพื่อน ๆ ได้ เพื่อน ๆ อาจจะทานด้วยการดื่มน้ำขิงทุกวัน หรือทานขิงอัดเม็ด หรือทานขิงที่นำมาเป็นส่วนผสมในอาหารก็ได้ค่ะ และที่สำคัญเลยนะคะ ขิงแก่จะมีสรรพคุณทางยาที่มากกว่าขิงอ่อน และยังมีใยอาหารมากขึ้นตามไปด้วยนะคะ

ขอแนะนำบทความ 5 เครื่องดื่มผลไม้ คลายร้อนได้ดี ที่จะมาบอกว่า เครื่องดื่มผลไม้ ไหนบ้างที่สามารถดับร้อน และเพิ่มความเย็นให้กับร่างกายได้ ต้องอ่านบทความนี้เลยค่ะ