การผสมพันธุ์แบบเลือดนิ่ง เลือดชิดคืออย่างไร?
ก่อนอื่น… เราคงต้องมาดูกันว่าในการเพาะพันธุ์สัตว์ที่เขาใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
… เขาก็จะใช้กันอยู่ไม่กี่วิธี… แบบที่เห็นมากๆคือ ผสมกันไปเรื่อยๆ…
เอาตัวนั้นมาผสมตัวนี้ ไม่สนใจว่าสายมันจะมาจากไหน แบบนี้… เรียกว่า ผสมออกมาให้ได้ตัวพอ… ไม่ต้องมาหาประวัติสายพันธุ์อะไรกัน… อีกแบบหนึ่ง… ก็เอามันในครอกเดียวกันนั่นแหละมาผสมกัน… เรียกว่า อินบรีด ก็ได้… พอเอาพ่อแม่ไก่ชนจากที่ไหนมาไม่รู้… แต่ไม่ใช่ครอกเดียวกันแน่ๆ…
ผสมกันออกมาก็จะได้รุ่นลูก เราเรียกว่า F1 … เอา F1 ครอกเดียวกันมาผสมกันได้รุ่นถัดมาเป็น F2 แล้วก็นับกันไป… แบบสุดท้ายก็จะเป็นผสมแบบวงศาคณาญาติ… เรียกว่า ไลน์บรีด… คือเอาสายเลือดใกล้เคียงกันมาผสมกัน…ซึ่งการจะพัฒนาสายพันธุ์ให้ดี ให้เหมาะสม เรามักจะใช้วิธีที่ 2 กะ 3 หรือ อินบรีด กะ ไลน์บรีด นี่แหละเป็นตัวยืน… แล้วอันไหนดีกว่ากันล่ะ อันไหนจะทำให้เลือดนิ่ง อันไหนจะทำให้เลือดชิด… ก็มาดูความหมายกันนิดหน่อยนะ…
เลือดนิ่ง… จะหมายถึง ไก่ชนสีใดๆ รูปร่างลักษณะใดๆ หรือเชิงชนใด ๆก็ตาม… ที่เมื่อนำมาผสมกันแล้ว… ออกมาเป็นสีเดิม รูปร่างลักษณะเดิมๆ..หรือเชิงชนเดิมๆ. เช่น ไก่ป่าในธรรมชาติ…เลือดแท้ๆ… จะผสมกันมายังไง… ก็ได้สีเดิมๆ รูปร่างเดิมๆ ต่างกันแค่ลายดอก ลายผีเสื้อ นิดหน่อย และแตกต่างไปตามสถานที่ตามแหล่ง… เพราะมันจะมีความหลากหลายทางพันธุกรรม… ถามว่าพวกนี้เลือดชิดไหม… ไม่หรอก… แบบนี้เรียกว่าเลือดนิ่งต่างหาก… แต่หากคุณผสมเขาออกมา… มีหุ่นหนาล่ำแบบไก่ชนไทยปักใต้บ้าง… ผ่ามีคอโกลนแบบง่อนบ้างไม่มีบ้าง… แบบนี้ไม่นิ่ง เป็นเลือดผสมแล้ว… ซึ่ง… การทำไก่ชนทั้งรูปแบบอินบรีดและไลน์บรีด… คือวิธีการที่จะทำให้เราได้ไก่ชนเลือดนิ่งเร็วขึ้นนั่นเอง… แต่อินบรีดจะประสบปัญหาเลือดชิดในระยะเวลาที่สั้นกว่าแบบไลน์บรีดมาก…
เลือดชิด... เลือดชิดในความหมาย… คือการนำไก่ชนในครอกเดียวกัน ในสายเครือญาติเดียวกัน… ผสมกันไปเรื่อยๆ… นานๆมากเข้า… ก็จะเกิดอาการผิดปกติขึ้นมา… หากเป็นคนก็จะออกอาการปัญญาอ่อนประมาณนั้น เป็นไก่ชนก็ประเภท… ตัวคด สั้น ขนไม่สวย โง่ ระบบการหายใจผิดปกติ มีไก่ชนประหลาดหลุดออกมามากขึ้น…กระดูกผิดรูป… อ่อนแอและไวต่อโรคมากกว่าไก่ชนที่ผสมตามปกติ ทำนองนั้น… มักเจอผลเสียมากกว่าผลดี… ขึ้นอยู่กับการเลือกการคัดพันธุ์ด้วยส่วนหนึ่ง… ส่วนใหญ่จะเกิดจากการอินบรีดเกินกว่า 3 รุ่น หรือ F3ไปแล้ว แต่ก็ได้ยินว่าทำไปได้มากกว่านั้น… ซึ่งผมไม่เคยลอง… เพราะไม่ชอบวิธีนี้เท่าไร อย่างมาก F2
คราวนี้มาดูความต่างระหว่างการนับ F กะการนับรุ่น (Generation) บ้าง
1.ไก่ชน A + ไก่ชน A F1 G1 ไก่ชน A + ไก่ชน A F1 G1
2.ไก่ชน 2A F2 G2 ไก่ชน 2A F2 G2
3.ไก่ชน 2A + ไก่ชน 2A ไก่ชน 2A + ไก่ชน AB
4.ไก่ชน 4A F3 G3 ไก่ชน 3AB F1 G3
5.ไก่ชน 4A + ไก่ชน 4A ไก่ชน 3AB + ไก่ชน 3AB
6.ไก่ชน 8A F4 G4 ไก่ชน 2(3AB) F2 G4
งงไหม !!! นี่ไม่ใช่เรื่อง Genetic นะ… แต่เอาไว้นับรุ่นเล่นๆตามแบบของผม… จะได้ไล่สายถูก… จะเห็นว่า F จะมากขึ้นหากมีการอินบรีดไปเรื่อยๆ… และ จะเริ่มนับ F1 ใหม่ เมื่อมีการนำมาไขว้หรือสับเลือดไก่ชนสายอื่นๆเข้าไป… แต่ Generation หรือรุ่นไก่ชน เราจะนับต่อๆไปได้เลย… ดังนั้น… มันจะเข้าใจได้ง่าย… ปีนี้ผมพัฒนาไก่พม่ามา 6 รุ่นแล้ว… กับพัฒนาไก่ชนพม่ามา F6 แล้ว คนละเรื่องกันเลยนะ…
แหล่งข้อมุล longhomdi